Editing
Tenkyou no Alderamin-TH:Volume 1 Prologue
(section)
Jump to navigation
Jump to search
Warning:
You are not logged in. Your IP address will be publicly visible if you make any edits. If you
log in
or
create an account
, your edits will be attributed to your username, along with other benefits.
Anti-spam check. Do
not
fill this in!
== บทนำ == “บางที อัจฉริยะคงมีอยู่สองประเภทสินะ--” บาจินคิดขณะกระโดดลงบันไดมืดสลัวทีละสามขั้น ประเภทผู้กล้าที่ปรากฏตัวเมื่อถูกเรียกร้อง กับประเภทแปลกประหลาดที่โผล่ออกมาเองโดยไม่ได้ขอ ประเภทไหนก็ไม่ได้ดีหรือแย่ไปกว่ากัน แต่เท่าที่บาจินพูดได้จากประสบการณ์ตรงคือ ปัญหาที่คนธรรมดาประสบเมื่ออยู่กับคนประเภทหลังนั้นไม่อาจเรียกว่าเป็นปัญหาทั่วไปเลย “ศาสตราจารย์ เข้าไปนะครับ!” ตามลูกถีบที่มุ่งเป้าใส่ประตูที่ไม่พอดีกับวงกบเข้าไปในห้อง อากาศที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็อึดอัดเสมอของห้องทดลองใต้ดินก็ลอยมาทักทาย กระดาษจดข้อความ บอยล์ลิ่งชิบสำหรับกันการเดือดพลุ่ง และข้าวของต่างๆราวๆนี้กองระเนระนาดบนพื้นชนิดแทบไม่มีที่ให้วางเท้า “วะ? โหย... เพิ่งจะทำความสะอาดไปเมื่อวาน...” บาจินถอนหายใจทันทีแต่แล้วก็รวบรวมกำลังใจขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วแล้วเดินต่อโดยไม่สนใจของที่วางเกลื่อน เขาต้องสนใจอะไรกันเล่า? ถึงอย่างไรเสียของแทบทั้งหมดในห้องนี้ก็ไม่ขยับไปไหน “ศาตราจารย์! ตอบด้วยครับ ศาสตราจารย์อนาลัย!” เมื่อเขาตะโกนดังขึ้น บางอย่างในส่วนลึกสุดของห้องแสงสว่างไม่เพียงพอนี้ก็ขยับตัว ชายชราร่างเล็กยืดหลังขึ้น มือข้างหนึ่งถือโคมไฟ เขาปรากฏตัวพลางปัดเสื้อโค้ทขาวเปื้อนสี “อย่าตะโกนสิ บาจิน ฉันเกือบทำขั้นเก็บรายละเอียดพังเชียวนะ” มือขวาของชายชราถือแปรงทาสีสีเหลืองอ่อน บาจินขมวดคิ้ว “ขั้นเก็บรายละเอียดนี่...ที่ต้องเอาแปรงทาสีออกมาด้วย กำลังทำอะไรอยู่หรือครับ?” “อืม ดูไหม? แต่สียังไม่แห้งนะ” เมื่อเขาตามอนาลัยไปยังส่วนลึกของห้อง ตรงนี้มีตุ๊กตาสีแดง น้ำเงิน เขียวและเหลืองสี่ตัวเรียงกัน จะเรียกว่าหุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์ก็ได้แต่พวกมันสูงแค่เข่าของบาจินและมีศีรษะใหญ่แขนขาเล็ก ว่าไปแล้วรูปร่างของพวกมันเหมือนตัว SD ที่หัวใหญ่กว่าตัวสองเท่าครึ่ง แต่โดยทั่วไปแล้วไม่มีใครเรียกร่างนี้ว่าหุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์ เพราะ แม้สิ่งเหล่านี้จะสวมร่างอย่างนี้และเป็นตัวตนที่แตกต่างจากมนุษย์ แต่พวกเขาคงอยู่ในธรรมชาติเคียงข้างมนุษย์ เป็นสิ่งที่เรียกว่า--- “---จิตวิญญาณแห่งมหาธาตุทั้งสี่...หรือครับ?” “ใช่แล้ว ผลงานของอนาลัย คาน ‘วิญญาณประดิษฐ์’ รุ่นทดลอง” ถูกกระตุ้นโดยอนาลัยซึ่งพ่นลมออกจากจมูกอย่างภาคภูมิ บาจินหันกลับมาดูตุ๊กตาเริ่มจากทางขวาไปทีละตัว เริ่มจากตัวแรก ...ตุ๊กตาที่ถูกทาสีเขียว ตรงท้องมีรูกลมๆที่เลียนแบบจาก ‘ช่องลม’ ของจริงเปิดอยู่ มีลมพัดออกมาจากในนั้น “นี่คือภูติลมสินะ พลังมัน...” บาจินโน้มตัวมองผ่านรู สิ่งแรกที่ปรากฏต่อสายตาคือใบพัดหกแฉกที่สร้างกระแสลม ถัดไปเป็นสิ่งที่อยู่ด้านตรงข้าม เขาแน่ใจว่าเห็นสัตว์ตัวเล็กๆวิ่งไม่หยุดบนจักรที่เชื่อมกับใบพัด ถ้าฟังดีๆจะได้ยินเสียงฉึกฉักด้วย “...หนูเหรอครับ...” “มันเข้ามาอยู่แถวนี้น่ะ และอีกอย่าง สำหรับสิ่งมีชีวิตที่สามารถเปลี่ยนมาเป็นต้นกำเนิดพลังงานแล้ว ไม่มีตัวเลือกอื่นนี่นา” “พูดสั้นๆคือเรายกทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของหนูสินะครับ” บาจินเสียดสี แสดงความผิดหวังต่อผู้ประดิษฐ์มันขึ้นมา แล้วหันไปสนใจ ‘วิญญาณประดิษฐ์’ ถัดไป “อันนี้เป็นสีน้ำเงินจึงเป็นภูติน้ำ...เข้าใจล่ะ น้ำออกมาจาก ‘ท่อส่งน้ำ’ บนตัวสินะ” “ตรงส่วนหัวกับลำตัวใช้ระบบเปิด-ปิด ลองเปิดแล้วดูข้างในสิ” ตามที่อนาลัยบอก เมื่อเปิด ‘ภูติน้ำ’เพื่อดูข้างใน อย่างแรกคือมีถังน้ำเล็กๆอยู่ในหัว ในถังน้ำนั้นมีหินขนาดต่างๆเรียงกันเป็นชั้น จากหินหยาบขนาดเท่าลูกตาจนถึงทรายละเอียด และน้ำโคลนขังอยู่บนสุด น้ำสะอาดไม่เพียงแต่ซึมจากกระดาษกรองที่แผ่อยู่ด้านล่างสุดของถังน้ำเท่านั้น ยังรินเข้าไปในท่อที่ส่งไปยังอวัยวะที่ดูเหมือนก๊อกน้ำ ซึ่งหากเป็นภูติน้ำของจริง ตรงนี้จะเรียกว่า ‘ท่อส่งน้ำ’ “...นี่มัน ใช่เลย มันคือของที่ศาตราจารย์ประดิษฐ์ขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ‘เครื่องกรองน้ำ’ นี่ครับ” “ใช่ ทำอย่างนี้แล้วความสกปรกจะถูกกรองออกจากน้ำ และเราจะได้น้ำสะอาด” บาจินลองดื่มน้ำที่หยดลงในแก้วชาที่วางอยู่ใต้ก๊อก เขาขมวดคิ้ว “...ศาสตราจารย์ครับ แต่น้ำนี่เหม็นโคลนมากเลย” “เรื่องดื่มได้ดูไม่น่าจะมีปัญหา แต่ที่ยุ่งยากคือความคงทนของกระดาษกรองกับความหนาของเยื่อกระดาษ” ขณะที่ทึ่งกับอนาลัยที่พูดอย่างไม่ใส่ใจ บาจินมองไปยังภูติตัวถัดไป นอกจากสีแล้ว ยังมีจุดที่แตกต่างจากสามตัวอื่น คือมีฝาครอบลงบนมือแต่ละข้างที่ยกขึ้นเหมือนกำลังทำท่าบันไซ “ต่อไปคือภูติไฟ...ถ้าอย่างนั้น อย่างที่คิดไว้เลย ไฟจะออกมาจาก ‘ท่อเพลิง’ ที่มือใช่ไหมครับ?” “อืม ลองดูสิ” ถอดฝากลมที่ครอบมือออก อนาลัยหยิบหินไฟออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล็บโค้ทอย่างคล่องแคล่วแล้วจ่อมันเข้ากับ ‘ภูติไฟ’ อย่างรวดเร็ว ทันทีที่เขาคิดว่าจะเกิดประกายไฟขึ้นเมื่อหินกระทบกันหรือเปล่า ไฟก็ลุกพลุ่งขึ้น “หวา! อันตราย!” “ภายใน ‘ภูติไฟ’ นี้คือน้ำมันกลั่นบริสุทธิ์ อย่างที่เธอรู้ เมื่อปล่อยสสารที่เรียกว่าน้ำมันไว้เฉยๆมันจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นไอ หรือที่เรียกว่าระเหย น้ำมันระเหยออกมาจากรูตรงมือของมัน ฉันจึงขังมันไว้ในฝาแล้วจุดไฟ ตามนั้น” “แทนที่จะอธิบาย กรุณาคิดถึงข้อดีข้อเสียของการทำอย่างนั้นในห้องที่เต็มไปด้วยของติดไฟได้ทีเถอะครับ!” ขณะปัดปลายแขนเสื้อที่ไหม้นิดๆ บาจินเบนสายตาที่มีน้ำตาคลอไปที่ ‘วิญญาณประดิษฐ์’ลำดับสุดท้าย เช่นเดียวกับภูติลมตัวแรก มีรูตรงกลางลำตัวของมัน ตรงรูที่ครอบแก้วไว้นี้มีแสงลึกลับจางๆส่องออกมา “’โพรงแสง’ในตัว...ภูติแสงสินะ แต่แสงนี่ มายังไง...” ด้วยความสงสัยบาจินจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วมองเข้าไปในรู อีกด้านของครอบแก้วมีเงานับไม่ถ้วนขยับตัววุ่นวาย ทันทีที่เขานึกได้ว่ามันคืออะไร สิ่งนับร้อยนั้นก็ปล่อยแสงเล็กๆออกมาจากหาง ขนลุกทั่วร่างบาจินแล้วเขาถอยกลับ “มะ-แมลงแสงไม่ใช่หรือครับ! เสียงน่าขยะแขยงชะมัด ไปจับมาจากไหนเยอะแยะขนาดนี้ครับ!?” “ไม่ใช่เสียงน่าขยะแขยงนะ! ก่อนจะมีอารมณ์รังเกียจ ถ้าเป็นผู้ช่วยของฉันก็จงมองธาตุแท้ของทุกสิ่งสิ แมลงเหล่านี้น่ะ คือหลักฐานมีชีวิตที่สอนเราว่า ‘แสง’ ที่เป็นเอกเทศจาก ‘ไฟ’ และ ‘อุณหภูมิสูง’ นั้นไม่ได้มีแต่ภูติแสงอย่างเดียวที่สร้างขึ้นมาได้” “ม-ไม่ ก็อาจจะใช่แต่ว่า...” พยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะไล่ภาพติดตาของแมลงที่ปล่อยแสงไหม้ตา บาจินมองหน้าของอาจารย์ของเขาที่เตี้ยกว่าหนึ่งช่วงศีรษะ “...ศาสตราจารย์ครับ พูดตามตรงนะ ครั้งนี้ผมไม่เข้าใจจริงๆ” “หืม...?” “จุดประสงค์ในการสร้าง ‘วิญญาณประดิษฐ์’ พวกนี้ขึ้นมาไงล่ะครับ ก็รู้ว่าศาสตราจารย์ศึกษาและสังเกตจิตวิญญาณมานานแล้ว แต่ของเลียนแบบตลกๆพวกนี้ทำอะไรได้หรือครับ นอกจากการท้าทายศาสนาอย่างไม่ยั้งคิดแล้วนึกอย่างอื่นไม่ออกเลย อย่าบอกนะว่าคิดว่าสามารถประดิษฐ์วิญญาณขึ้นมาได้จริงๆ” “เธอก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้รึ” “มันยากไม่ใช่หรือครับ ในตอนนี้เราสร้างแมลงไม่ได้สักตัวด้วยซ้ำ” อนาลัยจ้องอย่างสงบไปที่สิ่งประดิษฐ์รุ่นทดลองทั้งสี่ชิ้น ไม่คิดหักล้างความเห็นรุนแรงนั้นแม้แต่น้อย ความคิดของชายชราผู้ทรงภูมิความรู้เป็นสิ่งที่ยากหยั่งถึง แต่ตอนนี้บาจินไม่มีเวลาจะเดาชุ่ยๆ บาจินหันไปทางอนาลัยแล้วยื่นกระดาษที่กำแน่นมาตลอดให้โดยไม่เอ่ยอะไร “...อะไรนี่?” “น่าจะพอเดาออกนะครับ คำเตือนครั้งสุดท้ายจากโบสถ์อัลดีรา! เวลาเป็นสิ่งมีค่าดังนั้นจะสรุปให้ฟังเลยแล้วกัน... “ถึงผู้หมิ่นพระเจ้า อนาลัย คาน แม้จะถูกตักเตือนมาหลายครั้งแต่กระทั่งบัดนี้การทดลองของคนผู้นั้นยังไม่สอดคล้องกับเจตนารมย์ของพระเจ้า การกระทำดังกล่าวข้ามขีดความอดทนของพระเจ้า ก่อนเที่ยงถัดจากนี้สามวัน จงนำผลการทดลองชั่วร้ายมามอบตัวยังโบสถ์ หากฝ่าฝืนจะต้องรับโทษทัณฑ์ในฐานนอกรีต จนกว่าจะพบกันใหม่”...” บาจินอ่านมาถึงตรงนี้ อนาลัยกระแอมแล้วหัวเราะถากถาง “ผู้หมิ่นพระเจ้าหรือถูกคนของลัทธิเกลียดกันแน่... สรุปว่า ให้รับผิดชอบผลของการทดลองและภายในสามวันต้องไปขอโทษที่โบสถ์?” “นั่นแหละครับ ถึงจะเคยถูกเตือนมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ความดุเดือดต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องพูดถึงสามวันหรอก พรุ่งนี้ผู้ถือไม้เท้าเหล็กที่ทำหน้าที่สอบสวนพวกนอกรีตก็อาจมาเคาะประตูนี้แล้ว” “ถ้าเอาจริงก็คงเป็นอย่างนั้นล่ะ เราสูญเสียการสนับสนุนจากกองทัพไปแล้วแลกกับการเลี่ยงโทษประหาร” “ไม่ใช่เรื่องของคนอื่นนะครับ ...ถึงตอนนี้ แม้ผม ‘ศิษย์ของอนาลัย’ผู้ต่ำต้อยจะตัดสินใจตั้งแต่แรกแล้วว่าจะตามไปถึงนรก แต่ศาสตราจารย์ คิดจะทำอย่างไรต่อไปครับ?” ผู้ช่วยเอ่ยปากถามเสียงจริงจัง อนาลัยถอนหายใจและมองภายในห้อง “...ณ โลกแห่งนี้ แสงพระเนตรแห่งพระเจ้าสาดส่องทั่วไป ไม่ทรงสำราญพระราชหฤทัยกับแทบทุกสิ่งเหนือแดนดิน จากวรรณกรรมถึงถ้อยคำ แต่ละถ้อยแต่ละความ จนกว่าจะสถิตในใจทุกดวงของประชา พระเจ้าพระองค์นั้นจะเฝ้าทอดพระเนตรลงมาจากสวรรค์...” “...” “ทรงไม่เกษมสำราญ แม้เราจะหลบอยู่ในห้องทดลอง แม้เพียงระหว่างทดลองหากได้ฝันใฝ่ถึงการหลงลืมพระองค์ ที่อับชื้นมืดมัวก็เป็นสวรรค์ ถึงเวลาแล้วหรือที่เราจะไปอยู่ตรงหน้าความพิโรธของพระองค์อย่างเปลวเทียนท่ามกลางสายลม?” “คิดดูนะครับ นักเทววิทยาของศาสนาน่ะจะไม่เข้าใจ ‘วิทยาศาสตร์’ ของอาจารย์แน่ไม่ว่าจะอธิบายยังไงก็ตาม ‘พื้นฐานความรู้ทุกอย่างต้องมีพระเจ้าทรงอยู่’ ... ความเชื่อคำประกาศของนักเทววิทยาแห่งอัลดีราอย่างไม่ลืมหูลืมตานี่ล่ะที่ทำให้ไม่มีทางตระหนักถึงความจริงที่ถ่องแท้” “ใช่แล้ว ‘วิทยาศาสตร์’ วิชาของมนุษย์ผู้หมดอาลัยต่อพระเจ้า ตรงนั้นตรงนี้ คือทั้งหมดที่เราศึกษาอยู่ในนี้” ในตอนที่อนาลัยพึมพำอย่างเรียบเฉยนี่เอง เสียงกระดิ่งสั่นดังลงมาจากหลังคาเป็นคำเตือนที่ทำให้รู้สึกเย็นเฉียบ หลังจากนั้น ประตูเหล็กที่กั้นพื้นที่อยู่ส่งเสียงเอียดอาดจากการเคาะรุนแรง ทั้งสองคนร่างแข็งทื่อและสบตากัน “...ไม่รอให้พ้นวันส่งจดหมายไปก่อนแม้แต่วันเดียวเลย อย่างที่คาดไว้เลย อารมณ์ร้อนกันจริง” งึมงำอย่างประหลาดใจ อนาลัยหันกลับแล้วเดินไปถึงโต๊ะของตนเองได้ครึ่งทางแล้ว ชะงักอยู่ครู่หนึ่งตรงนั้น เปลี่ยนใจ แล้วเริ่มเก็บข้าวของอย่างไม่คาดหมาย “---บาจิน ไม่ใช้ที่นี่ทดลองแล้ว ทิ้งมันให้หมดยกเว้นข้อมูลที่คงจะค้างอยู่ ผลการทดลองทั้งหมดอยู่ในหัวของฉันกับเธอแล้ว ถึงอย่างไรการศึกษาเรียนรู้ก็ทำได้ไม่จู้จี้เรื่องสถานที่อยู่แล้ว ส่วนจะทำอย่างไรต่อไป มาหลบหนีอย่างเหนือชั้นไปจากดวงตาของพระเจ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้กันเถอะ” “ค--ครับ!...แต่ศาสตราจารย์ ได้คาดการณ์ถึงที่ต่อไปไว้ไหมครับ? ไม่ว่าเราจะหลบไปที่ไหนในดินแดนนี้ จักรวรรดิกตวรรณ ลัทธิคงกัดไม่ปล่อย...” “เพิ่งพูดไปนะว่าการเรียนรู้ไม่จำกัดเรื่องสถานที่ ที่ๆคิดไว้ไม่จำเป็นต้องเป็นภายในอาณาจักรนี้นี่ สาธารณรัฐคิโอก้าที่อยู่ติดกันมีสมรรถภาพมากพอจะตั้งตัวเป็นที่หนึ่งในฐานะประเทศแห่งศิลปวิทยาการและยอมรับคนอย่างพวกเรา” “คิโอก้า...!? กำลังทำสงครามกับอาณาจักรอยู่นะครับ! มีเส้นสายสำหรับขอลี้ภัยได้หรือครับ!?” “แม้แต่ที่นั่นก็พอจะมี ‘ศิษย์ของอนาลัย’ อยู่นิดหน่อย เจรจาต่อรองกันทางจดหมายน่ะ ไม้เท้ามีไว้กันล้ม<ref>proverb: 転ばぬ先の杖 (A stitch in time saves nine, prevention is better than the cure) สำนวนแปลว่ากันไว้ดีกว่าแก้ </ref>ใช่ไหมล่ะ?...เอาล่ะ บาจิน ภูติไฟคู่หูเธออยู่ไหน?” “อะ ครับ ระกะตอนนี้กำลังเผาขยะที่เตาเผาข้างหลัง แต่...” “อย่างนั้นเตาเผาก็มีไฟอยู่ล่ะสิ พอดีเลย มีของที่ไม่อยากให้พวกหัวแข็งจิตใจคับแคบพวกนั้นได้ไปอยู่ เธอล่วงหน้าไปก่อนแล้วคอยคุมไฟไว้ นี่ล่ะสิ่งที่คนที่’ไม่เป็นที่ต้อนรับ’อย่างฉันจะขอจากเธอ” เมื่อได้รับคำสั่งแล้ว บาจินสาวเท้าออกไปทางประตูหลังแล้วรีบขึ้นบันไดที่นำขึ้นไปสู่พื้นดิน เมื่อมองส่งร่างที่หันหลังไปนั้นแล้ว อนาลัยกลับมามองโต๊ะของตัวเอง ยกกระดาษปึกหนาที่มัดด้วยด้ายอย่างระมัดระวังขึ้นมาอุ้มไว้ด้วยสองมือ “บันทึกการสนทนาระหว่างฉันกับลูกศิษย์ที่กระจายกันไปอยู่ตามที่ต่างๆ... ถ้าไม่เยอะนักก็อยากเอาไปคิโอก้าด้วย แต่จำนวนขนาดนี้คงยากนะ” สายตาจ้องบรรดาจดหมาย ขณะงึมงำชื่อของผู้ส่งทีละชื่อทีละชื่อ อนาลัยเดินขึ้นบันไดไปช้าๆ ตอนนี้ไม่แยแสว่าผู้ตามล่ากำลังไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว สำหรับนักปราชญ์ชราคนนี้ พวกเขาเทียบกับจดหมายที่ส่งมาจากเหล่าลูกชายลูกสาวที่แยกกันไกลไม่ได้เลยแม้แต่น้อย “ยอร์ก้าเก่งกาจด้านคณิตศาสตร์ มิลบาเกียชื่นชอบตรรกศาสตร์ นาสึนะสามารถอธิบายข้อถกเถียงยากๆให้ฟังง่ายและอยากเป็นผู้ช่วย อิกฐา...” ขณะที่ชื่อนั้นหลุดออกจากปาก เสียงบรรยายก็แผ่วค่อยลง ยิ่งกว่าความคิดถึง ยิ่งกว่าความรัก ---ต่อเจ้าของชื่อนั้น คือความทรงจำอันปวดร้าวเข้ามาครอบงำอนาลัย “อิกฐา โซลอค เอาหลักการ ‘วิทยาศาสตร์’ ที่ฉันสอนไปเปลี่ยนเป็นแนวประหลาดของตัวเองไปแล้ว เป็นเด็กเฉลียวฉลาดเหมือนเธอนั่นล่ะ บาดะ จงหลับอย่างภูมิใจเถอะ” เมื่อขึ้นมาถึงพื้นดิน ขณะเปิดหน้าต่างเหล็กบนกำแพงอิฐ เปลวไฟในเตาเผาขยะที่อยู่อีกด้านกำลังลุกโชนอยู่แล้ว หลังจากเอาชนะความลังเลเล็กน้อยแล้วโยนจดหมายปึกหนาลงไป อนาลัยยืนนิ่งเบื้องหน้าความทรงจำที่ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “จนกว่าเหตุการณ์จะลงตัว ลากันชั่วคราวนะ ศิษย์ของอนาลัยทั้งหลาย หวังว่าจะพบกันใหม่คราวหน้า ในวิเวกแห่งเหตุผลที่เนตรของพระเจ้าทอดมาไม่ถึง” ล่ำลาจบแล้ว อนาลัยปิดหน้าต่างป้อนขยะลง หันเท้าเดินจากไปไม่เหลียวกลับมามองเป็นครั้งที่สอง ปีแห่งจักรวรรดิที่ 904 ‘นักวิทยาศาสตร์’ แห่งประวัติศาสตร์ยุคแรก อนาลัย คานและผู้ช่วยหนึ่งคนหลบหนีออกจากจักรวรรดิกตวรรณ ต่อมาได้ทำการทดลองต่อในประเทศที่ขอลี้ภัย ณ สาธารณรัฐคิโอก้า ------------------------- <noinclude> <references/> {| border="1" cellpadding="5" cellspacing="0" style="margin: 1em 1em 1em 0; background: #f9f9f9; border: 1px #aaaaaa solid; padding: 0.2em; border-collapse: collapse;" |- | Back to | Return to [[Tenkyou_no_Alderamin-Thai_version|หน้าหลัก]] | Forward to [[Tenkyou_no_Alderamin-TH:Volume_1_Chapter_1|บทที่ 1]] |- |} </noinclude>
Summary:
Please note that all contributions to Baka-Tsuki are considered to be released under the TLG Translation Common Agreement v.0.4.1 (see
Baka-Tsuki:Copyrights
for details). If you do not want your writing to be edited mercilessly and redistributed at will, then do not submit it here.
You are also promising us that you wrote this yourself, or copied it from a public domain or similar free resource.
Do not submit copyrighted work without permission!
To protect the wiki against automated edit spam, please solve the following captcha:
Cancel
Editing help
(opens in new window)
Navigation menu
Personal tools
English
Not logged in
Talk
Contributions
Create account
Log in
Namespaces
Page
Discussion
English
Views
Read
Edit
View history
More
Search
Navigation
Charter of Guidance
Project Presentation
Recent Changes
Categories
Quick Links
About Baka-Tsuki
Getting Started
Rules & Guidelines
IRC: #Baka-Tsuki
Discord server
Annex
MAIN PROJECTS
Alternative Languages
Teaser Projects
Web Novel Projects
Audio Novel Project
Network
Forum
Facebook
Twitter
IRC: #Baka-Tsuki
Discord
Youtube
Completed Series
Baka to test to shoukanjuu
Chrome Shelled Regios
Clash of Hexennacht
Cube × Cursed × Curious
Fate/Zero
Hello, Hello and Hello
Hikaru ga Chikyuu ni Itakoro......
Kamisama no Memochou
Kamisu Reina Series
Leviathan of the Covenant
Magika no Kenshi to Basileus
Masou Gakuen HxH
Maou na Ore to Fushihime no Yubiwa
Owari no Chronicle
Seirei Tsukai no Blade Dance
Silver Cross and Draculea
A Simple Survey
Ultimate Antihero
The Zashiki Warashi of Intellectual Village
One-shots
Amaryllis in the Ice Country
(The) Circumstances Leading to Waltraute's Marriage
Gekkou
Iris on Rainy Days
Mimizuku to Yoru no Ou
Tabi ni Deyou, Horobiyuku Sekai no Hate Made
Tada, Sore Dake de Yokattan Desu
The World God Only Knows
Tosho Meikyuu
Up-to-Date (Within 1 Volume)
Heavy Object
Hyouka
I'm a High School Boy and a Bestselling Light Novel author, strangled by my female classmate who is my junior and a voice actress
The Unexplored Summon://Blood-Sign
Toaru Majutsu no Index: Genesis Testament
Regularly Updated
City Series
Kyoukai Senjou no Horizon
Visual Novels
Anniversary no Kuni no Alice
Fate/Stay Night
Tomoyo After
White Album 2
Original Light Novels
Ancient Magic Arc
Dantega
Daybreak on Hyperion
The Longing Of Shiina Ryo
Mother of Learning
The Devil's Spice
Tools
What links here
Related changes
Special pages
Page information